Liquid แพลตฟอร์มเทรดเหรียญ Crypto ญี่ปุ่น โดน Hacker โจรกรรมไปกว่า 90 ล้านเหรียญ
กลายเป็นประเด็นใหญ่ในวงการ Cryptocurrency ทันที เมื่อ Liquid โดนแฮก! แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลสัญชาติญี่ปุ่น “Liquid” ออกมาเปิดเผยข้อมูลอันน่าตกตะลึงว่าพวกเขาได้รับผลกระทบจากการโดนโจมตีผ่านโลกอินเทอร์เน็ตโดย Hacker เข้ามาโจรกรรมเหรียญดิจิทัลไปมากกว่า 90 ล้านเหรียญ ทางบริษัทระบุว่า Wallets บางส่วนถูกบุกรุกและตัว Hacker เองได้ทำการโอนเงินดังกล่าวเข้าไปยัง Wallets ที่ต่างกันถึง 4 แห่ง
ขณะนี้เรากำลังตรวจสอบและอัปเดตอย่างสม่ำเสมอ ในระหว่างนี้การฝากและถอนจะถูกระงับเอาไว้ชั่วคราว
Liquid – ผ่านทาง Twitter
แม้ Liquid จะไม่ได้ออกมายืนยันอย่างชัดเจนว่ามูลค่าที่พวกเขาโดนโจรกรรมไปอยู่ที่เท่าไหร่ แต่ทางด้านของ Elliptic บริษัทที่ทำงานเกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ระบบบล็อกเชนได้กล่าวถึงเรื่องนี้หลังจากมีการนำเอาข้อมูลมาวิเคราะห์ ทางบริษัทพบว่า Hacker ได้เข้ามาโจรกรรมและน่าจะได้เงินดิจิทัลไปถึง 97 ล้านเหรียญ เมื่อเจาะลึกลงไปอีกก็พบว่า จากเงินดิจิทัลที่ขโมยมาทั้งหมด 45 ล้านเหรียญถูกแปลงเป็นสกุลเงิน Ethereum ผ่านระบบการแลกเปลี่ยนแบบกระจายศูนย์ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ไม่ต้องใช้คนกลาง อาทิ Uniswap และ SushiSwap
จากวิธีดังกล่าวทำให้ Hacker สามารถหลีกเลี่ยงการโดนระงับสินทรัพย์เอาไว้ชั่วคราวได้ เมื่อพวกเขาเปลี่ยนเหรียญให้กลายเป็นสกุลเงิน Ethereum
Elliptic – ผ่านทางบล็อก
สำหรับ Liquid ถูกจัดให้ติด 20 อันดับแรกของบริษัทแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลระดับโลก คำนวณจากปริมาณการซื้อขายรายวัน มีการประมวลผลธุรกรรมกว่า 133 ล้านเหรียญ ใน 24 ชม. ที่ผ่านมา ตามข้อมูลของ CoinMarketCap
จากการเปิดเผยของ Liquid นี้ ต้องยอมรับว่ามันคือการโจรกรรมสกุลเงินดิจิทัลครั้งใหญ่ครั้งที่ 2 และเกิดขึ้นภายในเวลาน้อยกว่า 1 สัปดาห์ หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ก็มี Hacker ที่เข้าไปโจรกรรมเหรียญดิจิทัลมากกว่า 600 ล้านเหรียญจาก Poly Network ซึ่งเป็นบริษัททำหน้าที่เกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนแบบกระจายศูนย์ แม้ว่าในสถานการณ์ต่อมาทาง Hacker จะมีการพูดคุยกับองค์กรที่พวกเขาเข้าไปโจรกรรมและคืนเงินเกือบทั้งหมดให้ ทว่าก็ยังมีเงินดิจิทัลมากกว่า 200 ล้านเหรียญ ถูกล็อกในบัญชีที่ต้องใช้พาสเวิร์ดจาก Hacker เท่านั้นจึงจะเข้าไปใช้งานได้
ต้องติดตามกันต่อไปว่าการโดนโจรกรรมทางอินเทอร์เน็ตในครั้งนี้ของ Liquid จะเป็นอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่สังเกตได้ชัดเจนคือ สินทรัพย์บนโลกออนไลน์กลายเป็นเรื่องที่ต้องระวัง และมีความเสี่ยงอยู่ เช่น ล่าสุด Binance เองก็เกิดเหตุการณ์ไฟดับ ส่งผลให้เทรดเดอร์ไม่สามารถขายเหรียญออกไปในได้ช่วงที่ราคาตก ดังนั้นนักลงทุนต้องเผื่อความเสี่ยงเหล่านี้ไว้ด้วย
ปัจจุบันมีกลุ่มคนประสงค์ร้ายที่ต้องการขโมยสินทรัพย์เหล่านี้อาจด้วยเหตุผลส่วนตัว หรือต้องการใช้เงินใดๆ ก็แล้วแต่ สำหรับใครที่มีสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นของตนเอง หรือทำการลงทุนรูปแบบอื่นๆ บนโลกออนไลน์ไว้ ต้องคอยสอดส่องข้อมูลให้ดี และไม่ควรเอาเงินทั้งหมดมาลงหมดหน้าตัก ใช้เฉพาะเงินที่เย็นจริงๆ มาลงทุน เพราะความเสี่ยงมีสูงมาก หากระบบผิดพลาดจะได้ไม่เจ็บหนัก
ที่มา: cnbc, finance.yahoo
