เทคนิคในการเลือกตลาดคริปโทเคอร์เรนซี และ 5 สิ่งที่ต้องสังเกตก่อนเลือกลงทุน
หนึ่งในรูปแบบการลงทุนออนไลน์ที่กำลังได้รับความนิยมในประเทศไทยคือการซื้อขายเหรียญคริปโตหรือสกุลเงินดิจิทัล บางครั้งมักจะได้ยินว่ามีหลายคนสามารถทำกำไรได้มากมายจากการซื้อเหรียญราคาถูกและขายในราคาแพง ในขณะเดียวกันมักจะได้ยินคำว่า “ติดดอย” ที่ทำให้หลายคนต้องรู้สึกเสียใจที่เหรียญที่ได้ลงทุนไปนั้นไม่สามารถทำกำไรได้ดังคาดหวัง ยิ่งไปกว่านั้น หลายคนก็ยังคงรู้สึกกังวลและกลัวกับคำว่าสกุลเงินดิจิทัลอยู่ดีเพราะคำนี้มักนำไปเปรียบเทียบกับการลงทุนในตลาดการเงิน
อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงแล้วใคร ๆ ก็สามารถลงทุนได้โดยไม่มีข้อจำกัดตราบเท่าที่คุณทำตามวิธีการสมัครสมาชิก โดยเริ่มจากการเลือกตลาดคริปโทเคอร์เรนซีให้ถูกต้อง เพราะตลาดดังกล่าวเป็นเสมือนประตูทางเข้าที่มีความสำคัญสำหรับนักลงทุนทุกคน
ตลาดคริปโทเคอร์เรนซี (Crypto Exchange) คืออะไร
สำหรับคำว่าตลาดคริปโทเคอร์เรนซี หมายถึง แพลตฟอร์มที่ผู้คนสามารถซื้อและขายสกุลเงินดิจิทัลอย่างบิทคอยน์ได้ ในตลาดนี้คุณสามารถดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเหรียญคริปโตได้ เช่น เข้าสู่ตลาดเพื่อเทรดสกุลเงินหนึ่งกับอีกสกุลเงินหนึ่ง, เปลี่ยนหรือ Convert จากสกุลเงินหนึ่งไปอีกสกุลหนึ่ง เช่น แลกจากบิทคอยน์ไปเป็นเหรียญ ETH, ซื้อเหรียญคริปโตโดยใช้สกุลเงินปกติ (fiat currencies) เช่น USD หรือ THB เป็นต้น
แพลตฟอร์มเหล่านี้จะขึ้นกับการเปลี่ยนแปลงราคาของตลาดในแต่ละเหรียญ นอกจากเจ้าของบัญชีจะสามารถแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลได้แล้ว ยังสามารถแลกสกุลเงินดิจิทัลเป็นสกุลเงินปกติ (fiat currencies) ได้ โดยสามารถเลือกถอนเงินไปยังบัญชีธนาคารของคุณ หรือเก็บไว้ในตลาดคริปโตเพื่อเทรดกับสกุลเงินอื่นต่อได้
วิธีเลือกตลาดคริปโทเคอร์เรนซีที่ถูกต้องควรสังเกตจากอะไรบ้าง
ในปัจจุบันนี้มีตัวเลือกตลาดคริปโทเคอร์เรนซีให้แก่ทั้งเทรดเดอร์และนักลงทุนจำนวนมาก ประกอบด้วยข้อเสนอและการบริการที่แตกต่างกันจึงทำให้ยากแก่การเลือกใช้บริการ อย่างไรก็ตาม ต่อไปนี้เป็นหนึ่งในหลักการหลัก ๆ สำคัญที่จะช่วยให้คุณเลือกตลาดคริปโตได้อย่างถูกต้อง
1. ได้รับมาตรฐานและปลอดภัย
อันดับแรกคือทำการค้นคว้าตลาดคริปโตที่คุณต้องการเลือกใช้บริการว่าถูกกฎหมายหรือเป็นแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยหรือไม่ เพราะการเลือกตลาดที่ได้มาตรฐานและปลอดภัยนี้จะช่วยยืนยันได้ว่าเงินทุนในบัญชีตลาดคริปโตทั้งหมดจะปลอดภัย เนื่องจากมีบางเทรดเดอร์ที่สูญเสียเงินกว่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐจากการเลือกแพลตฟอร์มที่เป็นสแปม ดังนั้น ควรตรวจสอบแพลตฟอร์มที่ต้องการเลือกใช้บริการว่ามีข้อบังคับสำหรับการปกป้องเงินทุนและข้อมูลส่วนตัวของคุณ
2. ช่องทางการชำระเงิน
สำหรับช่องทางการชำระเงินในแต่ละแพลตฟอร์มจะมีความหลากหลายและแตกต่างกันไป บางแห่งรับ Paypal, การโอนเงินผ่านธนาคาร ในขณะที่บางแห่งรับเฉพาะบัตรเงินสดเท่านั้น ดังนั้นการเลือกวิธีการชำระเงินที่คุณสะดวกมากที่สุดจึงเป็นวิธีการที่ดีที่สุด นอกจากนี้สำหรับนักลงทุนเริ่มต้นที่ยังไม่เคยเทรดเหรียญหรือซื้อขายคริปโตมาก่อนควรเลือกแพลตฟอร์มที่ยอมรับสกุลเงินปกติ (fiat currencies) ที่คุณสามารถเข้าสู่ตลาดได้โดยปราศจากความกังวล
3. เหรียญและโทเค็นที่ให้บริการ
โดยทั่วไปแล้ว ทุกแพลตฟอร์มที่ให้บริการในปัจจุบันจะยอมรับเหรียญ Bitcoin และ ETH อย่างไรก็ตาม ยังมีสกุลเงินดิจิทัลอีกกว่าหลายพันสกุลที่คุณสามารถเลือกลงทุนเพื่อทำกำไรได้อีกมาก ด้วยเหตุนี้คุณจะต้องทราบว่าแพลตฟอร์มที่คุณเลือกสมัครสมาชิกนั้นยอมรับสกุลเงินดิจิทัลที่คุณต้องการด้วยหรือไม่ ตัวอย่างเช่น Binance เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมสูงสุดเพราะมีเหรียญดิจิทัลและโทเค็นให้บริการมากกว่าแพลตฟอร์มอื่น ๆ
4. ค่าธรรมเนียม
ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีแต่ละแห่งมีโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกัน การทำความเข้าใจค่าธรรมเนียมของแพลตฟอร์มคริปโตแต่ละแห่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะคุณสามารถคำนวณค่าใช้จ่ายแอบแฝงที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการดำเนินการการทำธุรกรรมบนแพลตฟอร์มได้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนมือใหม่ควรเริ่มจากการเลือกแพลตฟอร์มที่ไม่มีค่าธรรมเนียม หรือมีโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่ยืดหยุ่นและคุณสามารถรับได้
5. อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย
เนื่องจากการดำเนินการกิจกรรมใด ๆ ในตลาดคริปโตนี้คือการใช้งานผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ ดังนั้น หากคุณเลือกแพลตฟอร์มที่มีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายจะช่วยให้คุณทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น คุณอาจจะตรวจสอบเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้าที่จะเป็นผู้ช่วยคุณในการตอบข้อสงสัยหรือแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ทันที
ตัวอย่างตลาดคริปโทเคอร์เรนซีที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย
แม้ว่าจะมีหลากหลายตลาดคริปโตให้เลือกในประเทศไทยจำนวนมาก แต่แพลตฟอร์มต่อไปนี้เป็นแพลตฟอร์มยอดนิยม
1. Binance
แพลตฟอร์มที่ทรงพลังมากที่สุดในโลก มีปริมาณการเทรดมากกว่า 13 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน เป็นแพลตฟอร์มการเทรดสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่นำเสนอเหรียญและโทเค็นกว่าพันรายการ นอกจากนี้ยังนำเสนอบริการอื่น ๆ เช่น Staking, บริการการเทรดตราสารอนุพันธ์ เป็นต้น
2. Bitkub
แพลตฟอร์มการเทรดสกุลเงินดิจิทัลสัญชาติไทย ในขณะที่แพลตฟอร์มอื่น ๆ นำเสนอการแปลงสกุลเงินเป็น USD หากแต่ที่ Bitkub แสดงรายการการเทรดเป็นสกุลเงินบาท หรือ THB จึงช่วยให้นักลงทุนชาวไทยสามารถทำความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้ง่ายกว่า นอกจากนี้ยังมีฝ่ายบริการลูกค้าและอินเทอร์เฟซการใช้งานทั้งหมดเป็นภาษาไทย จึงสะดวกและเข้าถึงได้ง่ายกว่า
ตลาดเหรียญคริปโตนี้อาจเป็นคำใหม่สำหรับหลายคน บางท่านอาจรู้สึกกังวลว่าการนำเงินไปฝากในบัญชีของแพลตฟอร์มต่าง ๆ จะปลอดภัยหรือไม่ เนื่องจากเคยมีบางแพลตฟอร์มโดนแฮกมาบ้าง แต่อย่างไรก็ตาม หากคุณใช้วิธีการตัดสินใจเลือกแพลตฟอร์มดังที่กล่าวข้างต้นจะช่วยให้คุณเข้าใจและเริ่มการลงทุนได้อย่างสบายใจมากขึ้น เพราะความสำเร็จในการลงทุนสกุลเงินดิจิทัลเริ่มจากการเลือกตลากคริปโตให้ถูกต้องและเหมาะกับคุณ
