ทำความรู้จัก บาทคอยน์ (Baht Coin) สกุลเงินดิจิทัลของไทยที่น่าจับตามอง

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนี่งเหตุการณ์สำคัญของประเทศไทยที่กำลังใกล้มาถึงแล้ว สำหรับ บาทคอยน์ หรือ Baht Coin ที่หลายๆ คนอาจจะยังไม่คุ้นเคยมากนัก ท่ามกลางกระแสการลงทุนของสกุลเงินดิจิทัล การซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี รวมถึงการขุดบิทคอยน์ การเข้าร่วม NFT และอื่นๆ อีกมากมายที่กำลังเป็นที่สนใจจากผู้คนทั่วไป ที่ในบางครั้งอาจจะดูเหมือนไกลตัว
แต่ต้องบอกเลยว่าบาทคอยน์ หรือ เงินบาทดิจิทัล กำลังจะเข้ามาเปลี่ยนลงระบบการเงินภายในประเทศ พร้อมพัฒนาก้าวเข้าสู่โลกดิจิทัล ที่ในช่วงปี 2022 เราจะได้เห็นการเริ่มต้นใช้เงินดังกล่าวกันจริงๆ ในเมืองไทย ดังนั้น การทำความรู้จักพร้อมเรียนรู้ความหมาย หลักการใช้งาน จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างมาก
มาตามเรื่องนี้กับ Thai Sharp กัน
บาทคอยน์คืออะไร ทำความรู้จักสกุลเงินดิจิทัลของรัฐ
ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าบาทคอยน์ (Baht Coin) จะถูกพูดถึงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างแน่นอน เพราะคาดการณ์ว่าจะได้เห็นการทดลองใช้ เงินบาทดิจิทัล ภายในปี 2022
บาทคอยน์คือ สกุลเงินดิจิทัลของรัฐบาล โดยมีชื่อเรียกว่า CBDC ที่จะย่อมาจาก Central Bank Digital Currency เป็นสกุลเงินดิจิทัลของรัฐที่ทางธนาคารในประเทศต่างๆ จะมีการจัดทำสกุลเงินดิจิทัลเป็นของตนเองขึ้นมา โดยสกุลเงินดิจิทัลดังกล่าวจะมีมูลค่าที่เทียบเท่ากับเงินจริง สามารถนำมาเป็นสื่อกลางสำหรับการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินจริงได้อีกด้วย หรือเราอาจจะเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า ธนบัตรดิจิทัล นั่นเอง
จุดเริ่มต้นของบาทคอยน์เกิดขึ้นได้อย่างไร
แล้วทำไมในประเทศไทยจึงจำเป็นต้องมีบาทคอยน์ รวมถึงประเทศต่างๆ ทั่วโลกที่ต่างมีการจัดทำ CBDC ในแต่ละประเทศออกมา?
จุดเริ่มต้นนั้นมาจากการ คริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) หรือ สกุลเงินดิจิทัล ที่ได้รับความสนใจอย่างแพร่หลายในด้านการลงทุน การใช้งาน กับการนำมาซื้อขายแลกเปลี่ยน พร้อมใช้แทนเงินสด โดยมีการใช้เทคโนโลยีบล็อคเชนเข้ามาช่วยเพิ่มความปลอดภัยและระบบแบบแผนที่รัดกุม ซึ่ง สกุลเงินดิจิทัล ก็ส่งผลให้บทบาทและการจัดการต่างๆ ของสถาบันการเงิน ธนาคารกลางลดน้อยลง

ด้วยเหตุผลนี้เองที่ทำให้ธนาคารกลางในแต่ละประเทศทั่วโลก ได้หันมาให้ความสนใจพร้อมศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาประสิทธิภาพของบล็อกเชน จนกลายเป็น CBDC สกุลเงินดิจิทัลของรัฐ ที่จะออกมาใช้สำหรับการเป็นสื่อกลางในการใช้งาน ซื้อขายแลกเปลี่ยนที่จะมีการควบคุมพร้อมดูแลโดยธนาคารกลางในแต่ละประเทศนั่นเอง
วิธีใช้งานบาทคอยน์ (Baht Coin) สามารถใช้ได้อย่างไร
แล้วบาทคอยน์จะสามารถใช้งานได้อย่างไร? มีวิธีใช้อย่างไรบ้าง?
ซึ่งความแตกต่างของ สกุลเงินดิจิทัลของรัฐ นั้นจะเป็นการนำเงินมาไว้ในรูปแบบของดิจิทัลที่จะมีการออกโดยธนาคารกลางของประเทศไทย มีมูลค่าเทียบเท่ากับธนบัตร เงินบาทที่ใช้กันในชีวิตประจำวัน สำหรับการซื้อของการจัดเก็บหรือออมเงิน โดย บาทคอยน์ จะสามารถนำมาใช้ในการซื้อขายเสมือนกับเงินสดได้เช่นเดิมและยังสามารถใช้ในการชำระหนี้สินได้ตามกฎหมาย
โดยการใช้งานบาทคอยน์จะไม่ได้จำกัดแค่เพียง การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต แต่ยังสามารถใช้จ่าย ซื้อขายแลกเปลี่ยนในรูปแบบอื่นๆ ที่ทางธนาคารกลางจะเป็นผู้ออกแบบเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งานนั่นเอง โดยจุดเด่นของ สกุลเงินดิจิทัลของรัฐ คือ การเป็นสื่อกลางสำหรับซื้อขายแลกเปลี่ยน ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย มีมูลค่าที่มั่นคง สามารถเก็บรักษาเปนสินทรัพย์ได้ และยังใช้ได้ทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์อีกด้วย
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจที่ในอนาคตเราจะได้เห็นรูปแบบที่ชัดเจนของ บาทคอยน์ มากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ก็ต้องจับตามองกันว่า สกุลเงินดิจิทัลของรัฐ จะมีความสเถียรมากน้อยแค่เพียงใด ใช้งานได้จริงหรือไม่และประชาชนทั่วไปมีเสียงตอบรับกับเรื่องดังกล่าวอย่างไร
2 Comments