เปิด 10 คำศัพท์ AI ที่ Content Creator ไม่ควรพลาด
ในยุคที่ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ไม่ได้เป็นแค่เทคโนโลยีเบื้องหลัง แต่กลายมาเป็นผู้ช่วยสร้างคอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารโซเชียล การวิเคราะห์อินไซต์ การเขียนคอนเทนต์ หรือแม้แต่การทำคอนเทนต์ Affiliate Marketing Content Creator ที่ต้องตามโลกให้ทันจึงต้องทำความเข้าใจกับคำศัพท์ AI เอาไว้ เพื่อให้สามารถใช้เครื่องมือ AI ในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รวมคำศัพท์ AI ที่ Content Creator ควรรู้
1. Generative AI
คำศัพท์ AI คำว่า Generative AI คือ ปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถ “สร้างสิ่งใหม่” ได้เองจากข้อความหรือข้อมูลที่ได้รับ เช่น สร้างบทความจากคำสั่ง สร้างภาพจากคำบรรยาย หรือแม้แต่วิดีโอ เสียง และโค้ด ตัวอย่าง เช่น ChatGPT ที่ช่วยเขียนข้อความ หรือ Midjourney ที่สร้างภาพจากคำพูดได้
2. Prompt
คำว่า Prompt คือ ข้อความหรือคำสั่งที่ผู้ใช้ป้อนให้ AI เพื่อสร้างผลงานตามที่ต้องการ เช่น “ช่วยเขียนแคปชั่นขายกาแฟให้ดูน่ารัก” หรือ “วาดภาพแมวใส่หมวกในสวนดอกไม้” ซึ่ง Prompt ยิ่งชัดเจน AI ก็ยิ่งตอบหรือสร้างผลงานได้ตรงใจมากขึ้น เป็นคำศัพท์ AI พื้นฐานที่ Content Creator ควรรู้ โดยเฉพาะครีเอเตอร์และนักการตลาดมือใหม่
3. Prompt Engineering
Prompt Engineering คำศัพท์ AI ที่หมายถึง เทคนิคหรือศิลปะในการเขียนคำสั่ง (Prompt) ให้ AI เข้าใจและตอบได้แม่นยำตรงใจที่สุด เช่น การจัดลำดับคำ การใช้ภาษาชัดเจน หรือการป้อนตัวอย่างเพื่อให้ AI เข้าใจ และสร้างผลงานที่เราต้องการจริง ๆ ออกมา
4. Fine-tuning
Fine-tuning เป็นคำศัพท์ AI ที่หมายถึง กระบวนการปรับแต่ง AI ด้วยข้อมูลเฉพาะเจาะจง เพื่อให้ AI เข้าใจบริบทหรือภาษาของเราได้ดียิ่งขึ้น เช่น ถ้าคุณมีแบรนด์เสื้อผ้าและอยากให้ AI เขียนโพสต์ในสไตล์ของแบรนด์คุณ ก็สามารถฝึก AI ด้วยโพสต์เก่า ๆ หรือข้อมูลของแบรนด์ เพื่อให้ AI ตอบสนอง หรือสร้างคอนเทนต์ได้ตรงใจมากขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้าง Content ที่เป็นสไตล์ของคุณได้อย่างสม่ำเสมอ
5. Natural Language Processing (NLP)
Natural Language Processing (NLP) คือ เทคโนโลยีที่ทำให้คอมพิวเตอร์ “เข้าใจภาษามนุษย์” ทั้งการอ่าน ฟัง พูด หรือเขียน เช่น เวลาคุณพิมพ์คำถามลงใน ChatGPT แล้ว AI ตอบกลับได้ถูกต้อง หรือเวลาใช้ Google Translate ก็จะแปลภาษาทันที เป็นอีกหนึ่งคำศัพท์ AI ที่นิยมใช้กัน
6. Large Language Model (LLM)
คำศัพท์ AI คำว่า Large Language Model (LLM) คือ ปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกฝึกด้วยข้อความมหาศาลจากอินเทอร์เน็ต หนังสือ บทความ และบทสนทนาต่าง ๆ จนสามารถ “เข้าใจและสร้างภาษา” ได้ใกล้เคียงมนุษย์ โดยโมเดลอย่าง ChatGPT ก็เป็นตัวอย่างของ LLM ที่สามารถนำมาใช้ได้หลากหลาย
7. Deepfake
Deepfake คือ เทคโนโลยีที่ใช้ AI ในการ “ปลอมแปลงภาพ วิดีโอ หรือเสียง” ให้ดูเหมือนจริงมาก เช่น การเปลี่ยนใบหน้าคนหนึ่งให้กลายเป็นอีกคนในวิดีโอ หรือทำให้คนพูดสิ่งที่ไม่เคยพูดจริง ๆ โดยที่ตาเปล่าแยกแทบไม่ออก เดิมที Deepfake ถูกใช้ในวงการบันเทิงหรือโฆษณาเพื่อสร้างเอฟเฟกต์สมจริง แต่ในบางกรณีอาจถูกนำไปใช้ในทางหลอกลวง จึงต้องใช้คำศัพท์ AI คำนี้อย่างระมัดระวังและมีจริยธรรมควบคู่เสมอ
8. Voice Cloning
Voice Cloning คือ เทคโนโลยีที่ใช้คอมพิวเตอร์สร้างเสียงพูดที่มีลักษณะเหมือนเสียงของคนจริง ๆ โดยระบบจะเรียนรู้จากตัวอย่างเสียงต้นแบบของคนนั้น ๆ แล้วนำไปสร้างเสียงพูดใหม่ที่ฟังดูเหมือนเสียงต้นฉบับ ซึ่งสามารถนำคำศัพท์ AI คำนี้ไปใช้ในงานต่าง ๆ ได้ เช่น การทำเสียงพากย์ เสียงผู้ช่วยอัจฉริยะ หรือสร้างเสียงสำหรับคนที่มีปัญหาการพูดได้
9. Synthetic Media
คำศัพท์ AI คำว่า Synthetic Media คือ เนื้อหา (ข้อความ เสียง วิดีโอ หรือรูปภาพ) ที่ถูกสร้างขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และปรับแต่งให้เหมือนจริง ช่วยให้ผู้สร้างสรรค์สามารถสร้างเสียงบรรยายหรือภาพประกอบได้อย่างรวดเร็ว โดยจะเห็นได้บ่อย ๆ ในซีรีส์จีนแนวตั้ง
10. Hallucination
Hallucination เป็นคำศัพท์ AI ที่พบเห็นได้บ่อย ๆ เช่นเดียวกัน โดยหมายถึง สถานการณ์ที่ AI สร้างคำตอบหรือข้อมูลขึ้นมาเองโดยที่ข้อมูลนั้นไม่ถูกต้องหรือไม่มีอยู่จริง ซึ่งเกิดจากความผิดพลาดของระบบในการประมวลผล หรือคาดเดา ทำให้ผู้ใช้ต้องระวังและตรวจสอบข้อมูลที่ได้จาก AI เสมอ
หากคุณรู้คำศัพท์ AI แปลว่าคุณจะไม่ตกขบวน ซึ่งเครื่องมือ AI สามารถช่วยคุณได้ทั้งในเรื่องการวางแผนคอนเทนต์ การสร้างคอนเทนต์ หรือสร้างแคปชันดึงดูดผู้ชม ไปจนถึงช่วยเพิ่มความแม่นยำในการสื่อสารกับทีม Dev, ทีม Marketing และ Client ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
