|

Microsoft Azure Cloud กับ 4 จุดเด่น ที่เคลมว่าเหนือกว่าคู่แข่ง

microsoft azure cloud ดีไหม

Azure Cloud เป็นบริการ Cloud Computing จาก Microsoft ที่เปิดตัวในปี 2008 และถือเป็นหนึ่งในบริการคลาวด์ที่แข็งแกร่ง ปลอดภัย และรองรับการขยายตัวได้ โดยการใช้งานนั้นรองรับทั้งในรูปแบบ PaaS (Platform as a Service), SaaS (Software as a Service ) และ IaaS (Infrastructure as a Service) ในภาษาโปรแกรมที่หลากหลาย เพื่อรองรับการทำงานของ IT ในองค์กรต่างๆ อย่างครอบคลุม โดยไม่ต้องลงทุนสร้าง Data Center ด้วยตัวเอง

การใช้บริการ Azure Cloud ของ Microsoft สามารถใช้โดยตรงผ่านระบบของ Microsoft เลย หรือจะหาตัวแทนผู้ให้บริการในประเทศไทยที่สามารถบริการ Cloud Solutions จาก Microsoft ก็ได้เช่นกัน

โดยข้อดีของการใช้บริการผ่านผู้ให้บริการในประเทศไทยคือจะมีทีมคอยให้ความช่วยเหลือ เหมาะสำหรับองค์กรที่ยังไม่ค่อยมีความเชี่ยวชาญ หรือต้องการ Expert เข้ามาช่วยดูแล จัดสรรทรัพยากรณ์และให้คำแนะนำ ไปจนถึงการชำระเงินที่สามารถชำระผ่านบริษัทผู้ให้บริการในประเทศ ออกบิลและใบกำกับภาษีได้ตามปกติ โดยข้อเสียคือ ค่าใช้จ่ายที่อาจสูงขึ้นกว่าการใช้บริการกับ Microsoft โดยตรง

ตรงนี้ก็ต้องลองชั่งน้ำหนักดูว่าแบบไหนจะเหมาะกับบริษัทมากกว่ากัน

4 จุดเด่นของบริการ Cloud Computing จาก Microsoft Azure

บริการคลาวด์ของ Microsoft Azure ได้รับความนิยมไม่แพ้กับคลาวด์เจ้าอื่นๆ โดยมีผู้ใช้บริการทั้งหน่วยงานรัฐ และเอกชน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจด้านการเงิน สุขภาพ โรงงาน ค้าปลีกรายใหญ่ ไปจนถึงธุรกิจประกัน

Cloud Product ของ Microsoft Azure ที่ได้รับความนิยม
Product บางส่วนของ Microsoft Azure Cloud ที่ได้รับความนิยม

โดยมี 4 เหตุผลหลักๆ ที่ทำให้ Microsoft Azure เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆในตลาด เทียบเตียงกับ AWS และ Google Cloud

1. ความปลอดภัยที่ทำงานแบบ Proactive

Microsoft เคลมว่าทางบริษัทได้ทุ่มเงินลงทุนสูงกว่าพันล้านเหรียญสหรัฐในแต่ละปีเพื่อทดสอบ วิจัย และพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัย หรือ Cybersecurity โดยทาง Microsoft ได้วางเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Cybersecurity ไว้ทั่วโลกกว่า 3,500 คน เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านความปลอดภัยแก่ลูกค้าไม่ว่าจะเป็นเรื่อง DDoS หรือเหตุขัดข้องต่างๆ และแจ้งเตือนหากระบบจำเป็นต้องทำการอัปเกรด เพื่อให้การใช้งานปลอดภัยยิ่งขึ้น

โดยการทำงานของการ Monitor เรื่องความปลอดภัยในระบบ Microsoft ใช้ระบบแบบ Proactive ที่จะมีการตรวจสอบตลอด 7 วัน 24 ชั่วโมง เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น และหากระบบสแกนเจอสิ่งผิดปกติ ก็จะรีบจัดการโดยทันที

2. การันตี 99.99% Uptime

ในช่วงเวลาที่เกิดภัยทางธรรมชาติหรืออุบัติเหตุต่างๆ ที่ส่งผลให้ Azure Cloud หยุดทำงาน ทาง Microsoft ได้วางแผนการกู้ข้อมูลคืนเพื่อให้พร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา ปราศจากข้อผิดพลาดในการทำงาน โดยทางบริษัทกล้าการันตีตัวเลข 99.99% Uptime พูดง่ายๆ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นระบบก็จะสามารถยังทำงานได้อยู่ด้วยระบบการกู้คืนข้อมูลที่ทันสมัย โดยจะมี Data Center อยู่รอบโลก ซึ่งหากที่ใดเกิดปัญหา อีกเครื่องหนึ่งก็จะถูกนำเข้ามาใช้งานแทนทันที

3. ความเร็ว

ความเร็วกับเรื่องเทคโนโลยีเป็นของคู่กัน และจำเป็นอย่างยิ่ง ซึ่ง Microsoft Azure ก็ได้พยายผลักดันในเรื่องของความเร็วที่ช่วยให้การสร้าง การทดสอบ และพัฒนาแอปได้อย่างรวดเร็ว ไปจนถึงการกู้ข้อมูล Backup ไม่ว่าข้อมูลจะมากแค่ไหนก็สามารถใช้เวลาเพียงเล็กน้อย ซึ่งการมี Data Center อยู่ทั่วโลกก็ทำให้ Azure สามารถสร้างจุดเด่นในด้านความเร็วได้ไม่ยาก ทำให้ผู้ใข้สามารถดึงข้อมูลได้ทันทีและทันใจ ไม่ว่าจะเป็น

  • ความเร็วในการสร้างและทดสอบแอปฯ
  • ความเร็วในการเพิ่มสเกลการทำงาน อัปเกรดบริการ หรือเพิ่ม Feature ใหม่ๆ
  • ความเร็วในการดึงข้อมูลจาก Backup
  • ความเร็วในการใช้ระบบ AI และ Machine Learning เพื่อจัดการกับฐานข้อมูลจำนวนมาก รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมาก

โดยระบบการทำงานของ Microsoft Azure จะมีการ Automate ฟังก์ชันการทำงานบางส่วน รวมถึงมีเทมเพลตสำหรับรูปที่สามารถดึงมาใช้งานได้เลย ซึ่งก็จะช่วยเรื่องความเร็วในการทำงานด้วย

4. ราคาที่ช่วยให้องค์กรประหยัด

ในส่วนนี้ ThaiSharp ไม่การันตีว่าจะประหยัดได้มากน้อยแค่ไหนหากเทียบกับบริการคลาวด์ของเจ้าอื่น เพราะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยในแต่ละองค์กร แต่ทั้งนี้ทาง Microsoft เองก็ได้เคลมว่า Azure Cloud นั้นสามารถเป็นประโยชน์ในการใช้งานทั้งในองค์กรเล็กและใหญ่ เนื่องจากมีแพ็กเกจที่ครอบคลุม โปร่งใส และสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมของการใช้งานที่สุด ซึ่งก็จะคิดราคาตามที่ใช้งาน

ระบบจะมีการปิดการทำงานในส่วนของทรัพยากรณ์ที่ไม่ได้ใช้งาน และทำงานแบบ Autoscaling เพื่อให้ค่าใช้จ่ายสอดคล้องกับการใช้งานจริงที่สุด โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 400 บาทต่อเดือน (ตรวจสอบราคาหน้าเว็บ https://azure.microsoft.com/en-us/pricing/)

ทั้งนี้ สำหรับองค์กรที่เพิ่งเริ่มใช้งานและอยากทดลองดูก่อน ทาง Microsoft Azure มีแพ็กเกจให้ทดลองใช้งานฟรี 12 เดือน และยังแถมเงิน $200 ในรูปแบบเครดิต ให้ลองไปใช้ซื้อบริการเพิ่มเติมได้อีกด้วย ซึ่งตรงนี้ไม่ต่างกับของ Google เพราะมีให้ใช้งาน Google Cloud Platform ฟรี เช่นกัน

ซึ่งในแพ็กเกจฟรี 12 เดือน ลองดูแล้วก็เพียงพอสำหรับธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้น ไม่ว่าจะเป็น Startup หรือธุรกิจเล็กๆ ที่ต้องการเริ่มพัฒนาแอปพลิเคชัน สื่อออนไลน์ ระบบการแจ้งเตือน ระบบการวิเคราะห์ข้อมูล หรือจะเป็นระบบ Virtual Machine ก็ทดลองใช้ก่อนได้เลย

หากใครสนใจเป็น Cloud ไทยที่ให้บริการโดยคนไทยก็สามารถลองดูได้เช่นกัน ThaiSharp ได้รีวิวและรวบรวมมาให้เลือกแล้ว

Similar Posts

Leave a Reply

Your email address will not be published.